Website ที่เกี่ยวข้อง








Website ที่เกี่ยวข้อง
http://worldprothai.siam2web.com

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

บทความที่ 9 ธุรกิจเครือข่ายMLMหนทางสู่ความสำเร็จ....หรือล้มเหลว


สิ่งที่ผมได้ยินอยู่บ่อยๆคือ 95%ของผู้ทำธุรกิจเครือข่ายคือความล้มเหลวและอีก5%นั้นคือผู้สำเร็จ เมื่อได้ยินคำบอกเล่าเช่นนี้ก็ทำให้ผมรู้สึกว่ามันเกิดอะไรกับคน95% ที่กำลังทำธุรกิจเครือข่ายอยู่กันแน่ เพราะอะไรจำนวนคนที่ล้มเหลวถึงได้มากมายขนาดนั้นและจากที่ผมศึกษาดูแล้วก็ได้คำตอบดังนี้(หลายๆท่านอาจจะค้านก็ได้นะครับ)

1.  เพราะเขาไม่เข้าใจว่าธุรกิจเครือข่ายก็คือธุรกิจขายตรงแต่เปลี่ยนจากที่จะได้รายได้แบบชั้นเดียวคือได้เปอร์เซ็นจากการขาย(SLM)มาเป็นการขยายสายงานแบบหลายชั้นได้(MLM)  จึงไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสินค้ามากนัก

2. การรีบร้อนเกินไป  หลายๆคนมักจะรีบร้อนที่อยากจะโตไวๆเพื่อที่จะได้รับค่าตอบแทนสูงๆเร็วๆ  สิ่งนั้นถ้าเป็นการทำเพื่อให้ใจฮึกเหิมหรือเป็นการกระตุ้นตัวเองก็ไม่ผิด หรอกนะครับ  แต่หลายๆคนกลับใช้วิธีการไปหลอกผู้อื่น  หลอกเอาคนใกล้ๆตัวบ้างหลอกเอาเพื่อนมาบ้างเพื่อที่จะหวังผลประโยชน์จากคนที่ เราแนะนำและสุดท้ายก็ต้องมาสูญเสียทีมงานไปและตัวเราก็ต้องออกจากอาชีพนี้ไป ในที่สุดเพราะไม่สามารถที่จะชักชวนใครได้อีก  กลายเป็นเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาเสียทั้งเพื่อนและคนรู้จักไป

3. การทำธุรกิจทุกธุรกิจต้องใช้เวลา  อย่าคิดว่าจะสำเร็จได้เพียงชั่วข้ามคืนต้องมองให้ออกว่าธุรกิจไม่ได้สำเร็จ กันอย่างง่ายๆทุกอย่างต้องใช้เวลาด้วยกันทั้งหมด  ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจของเราเองหรือลูกจ้างเขาก็ตามต้องใช้เวลาด้วยกันทั้งสิ้น

4. การสอนทีมงานเป็น  การที่ธุรกิจจะเติบโตได้ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปได้ด้วยตัวคนเดียวการขับเคลื่อน องค์กรทีมงานนั้นทุกฝ่ายและทุกคนสำคัญทั้งหมดดังนั้นต้องสอนให้เขาทำงานเป็น คุณเองคงไม่อยากเหนื่อยอยู่คนคนเดียวใช่มั๊ยครับ  การที่ทีมงานทำงานกันเป็นและทำงานอย่างมีระบบนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก  คุณต้องสอนให้ทีมงานเขาตกปลาเป็นอย่าเพียงหาปลามามาใส่มือให้เขา  และเมื่อทุกคนหาปลาเองกันเป็นเขาเองก็ไม่อดอยากและคุณเองก็ไม่ต้องมาเหนื่อย

5.ต้อง ศึกษาหาความรู้อย่างต่อเนื่อง  เพราะการเก็บเกร็ดความรู้แม้จะเล็กๆน้อยๆก็มีประโยชน์  และถ้าได้ฟังหรืออ่านบทความประสบการณ์ของผู้อื่นได้ด้วยนั้นก็ยิ่งเป็นสิ่ง ดีเพราะจะทำให้เรามีจิตใจที่ฮึกเหิมขึ้น

6.การแนะนำสินค้าได้  ถึงธุรกิจMLMอาจ จะไม่ต้องขายสินค้าเลยแต่ธุรกิจนี้ก็เกี่ยวข้องกับสินค้าอย่างชัดเจนฉะนั้น เราเองก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องรู้จักสินค้าในบริษัทของเรา  และสามารถแนะนำให้ลูกทีมหรือลูกค้าของเราได้  และถ้าสินค้าไหนที่เราไม่เคยได้ทดลองใช้ก็ไม่ควรจะแนะนำ  นอกเสียจากลูกค้าของคุณสนใจสินค้าจาก Catalog เอง  เรา ต้องเข้าใจว่าสินค้าจากธุรกิจของเรานั้นราคาค่อนค้างสูงกว่าท้องตลาด ฉะนั้นคุณเองต้องเสนอได้ว่าสินค้านั้นคุ้มกว่าตามท้องตลาดอย่างไรเพื่อจะได้ แนะนำให้ลูกทีมหรือลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

7. ควรดูความต่างหลายๆบริษัทก่อนที่จะตัดสินใจเข้าร่วม  ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สินค้า,  การรักษายอด,  การคำนวณเงินเริ่มต้นธุรกิจ,  ค่าPV (ค่าPVแต่ละบริษัทนั้นมีการวัดค่าจากPVที่ต้องทำ  หารด้วยจำนวนเงินที่ต้องลงทุน เช่นบริษัทนี้ด้องการ2000PV  ในการลงทุน  และสินค้าที่จะซื้อให้ครบ2000PV อยู่ที่ราคา5000บาท  ก็นำ5000มาหารด้วย2000จะเท่ากับค่าPVแต่ละคะแนน  จุดนี้คนส่วนใหญ่มักไม่ได้มอง  แต่เป็นจุดที่สำคัญนะครับ  ผมเคยเห็นบางที่ตกPVละ30-50บาทต่อ1 PVก็มี),  แผนการจ่ายเงิน,  บริษัทถูกกฎหมายหรือไม่,  สินค้าต้องใช้วิทยาศาสตร์วัดได้ (เพราะ บางบริษัทใช้ความรู้สึกในการวัด  ยกตัวอย่างเช่นสินค้าอาหารเสริมที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงแต่ก็ไม่ได้มีหลัก ในวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้มารองรับ), สินค้าประเภทบริโภคต้องผ่านองค์การอาหารและยา
8. ธุรกิจควรเริ่มตั้งแต่ยังไม่มีภาระ  เช่นนักศึกษา  หรือผู้มีงานที่ได้รายได้ตายตัวทำประจำอยู่แล้ว  เพราะที่หลายๆคนต้องการรีบโตในธุรกิจนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีภาระมาก  ต้องการใช้เงิน  จึงต้องไปหลอกผู้อื่นมา  จนลืมคิดไปว่ารายได้ส่วนหนึ่งนั้นต้องมาจากการสอนทีมงานให้ดูแลลูกค้าของตัว คุณเอง  และเมื่อคุณหลอกเขามาทำเขาทำธุรกิจไม่ได้  เขาก็ตายจากอาชีพคุณเองก็ต้องตายตามไปด้วย  แต่ถ้าเราเริ่มธุรกิจนี้ในขณะที่เราไม่ได้มีภาระอะไรก็ไม่ต้องรีบร้อน  ทำธุรกิจของเราให้ค่อยๆโตขึ้นเรื่อยๆ  จนมีรายได้จากธุรกิจมากพอค่อยเปลี่ยนจากPart-Time มาเป็นFull-Timeก็ยังไม่สายใช่มั๊ยครับ

ฉะนั้น หนทางของความสำเร็จหรือล้มเหลวนั้นมันมีปัจจัยหลายๆอย่าง  เราไม่ควรที่จะมองข้ามสิ่งเหล่านั้นไป  ธุรกิจทุกๆธุรกิจก็ต้องมองหลายๆมุมเช่นกัน  แต่ส่วนตัวผมนั้นก็ยังมองว่าธุรกิจเครือข่ายเป็นการทำธุรกิจที่มีความเสี่ยง น้อยกว่าเพราะเนื่องจากใช้เงินลงทุนที่ต่ำกว่าธุรกิจหลายๆธุรกิจที่ผมเคย รู้จักมา  สำหรับเคล็ดลับนี้ผมหวังว่าผู้อ่านน่าจะได้สิ่งดีๆจากบทความของผมไม่มากก็ น้อยนะครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น